7 กันยายน 2560 : เอไอเอส โดย AIS Business Solutions จัดงานสัมมนาใหญ่เพื่อองค์กรธุรกิจ เผยวิสัยทัศน์และนโยบาย “AIS Business Cloud 2017” พร้อมให้บริการ Business Cloud แบบ End-to-End และประกาศพร้อม เป็นพาร์ทเนอร์ด้าน Cloud กับทุกธุรกิจ ที่ต้องการมีระบบ Cloud ของตัวเองเริ่มตั้งแต่ให้คำปรึกษา วางแผน ปฏิบัติ ตลอดจนการให้บริการแบบ Managed Service ที่ครบวงจร ได้มาตรฐานและความปลอดภัยระดับโลก ด้วยทีมงานบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมช่วยดูแลและให้บริการตลอดการใช้งาน เพื่อให้ทุกธุรกิจแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุค Thailand 4.0
บริการ End-to-End Cloud Services ประกอบด้วย
1. Network for Business เอไอเอสมีความแข็งแกร่งด้าน Network เป็นอันดับ 1 โดยมีโครงสร้างพื้นฐานของ Cloud Infrastructure และ DATA CENTER ของเอไอเอสเอง ทำให้เราสามารถให้บริการ Cloud ได้แบบ End-to-End Service Provider อย่างครบวงจรหนึ่งเดียวในไทย สามารถที่จะปรับและยืนหยุ่นได้ตามที่ต้องการ
ล่าสุด เป็นครั้งแรกของเมืองไทย กับบริการ Bandwidth on Demand ให้ลูกค้า AIS ที่ใช้บริการ Internet และ MPLS สามารถเข้ามาปรับเพิ่ม Bandwidth ได้ด้วยตัวเองผ่านหน้า portal โดยสามารถปรับเพิ่มเป็นรายวัน แบบชั่วคราวได้ ด้วยความเข้าใจพฤติกรรมการใช้งาน Cloud ของลูกค้าองค์กร ที่อาจจะต้องการเพิ่ม Bandwidth ในการใช้งาน
2. Infrastructure/ Platform as a service เอไอเอสได้ร่วมกับพันธมิตรผู้นำด้าน เทคโนโลยีระดับโลกให้บริการ Cloud ที่ได้มาตรฐานและเหนือชั้นยิ่งกว่า ล่าสุดกับบริการ Azure and Hybrid Cloud ร่วมกับ Microsoft โดย AIS ได้นำระบบ cloud ระดับโลก จาก Microsoft Azure มาให้บริการ ในระดับที่ Advance ขึ้น ให้กับลูกค้าเอไอเอส โดย AIS Cloud จะทำงานประสานอย่างไร้รอยต่อ กับ Microsoft Azure ด้วยการระบบ Hybrid Cloud platform สามารถบริหารจัดการ resource ถึงระดับ insight analytic ทั้งบน on-premise cloud และ Azure จาก console เดียวกัน โดย Microsoft Azure สามารถให้บริการล้ำๆ อย่างเช่น Machine learning, Big data analytic, IoT suite, Web app platform, Data lake analytics และอีกมากมาย ตลอดจนบริการ Backup on cloud ร่วมกับ Veeam, DR as a service โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก AIS, Database Platform ร่วมกับ TMaxsoft และ Enterprise Cloud power by VMware เป็นต้น
3. Security Service โดยร่วมกับ Palo Alto ให้บริการ Centralized Firewall เพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ปลอดภัย โดยเฉพาะบริษัทที่มีสาขาต่างๆ ทำให้ประหยัดต้นทุนมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ Firewall ไปติดตั้งแต่ละสาขาอีกต่อไปแล้ว
4. Software as a service ได้แก่ บริการ AIS Unified Communication เพิ่มประสิทธิภาพของระบบโทรศัพท์สำนักงาน โดยองค์กรไม่ต้องลงทุนทรัพยากรในการติดตั้ง และดูแลรักษาระบบตู้ PBX ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรหากัน,AIS mForm สำหรับสร้างแบบฟอร์มการทำงานกันภายในองค์กร พร้อมใช้งานบน Cloud Platform ของ AIS โดยที่องค์กรไม่ต้องใช้เวลาไปกับการพัฒนาโปรแกรม software รวมถึงไม่ต้องดูแลรักษาระบบ hardware ที่รัน software โปรแกรมนั้นๆ ด้วย
5. Managed Cloud Services เอไอเอสสามารถให้บริการ Cloud ได้แบบ End-to-End ตั้งแต่ให้คำปรึกษา, ติดตั้งระบบ, ย้ายระบบ, ดูแลรักษาระบบเครือข่าย, ด้านความปลอดภัยของระบบ ตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้ง จัดเวิร์คช็อปให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและภาคธุรกิจไทย เจาะลึกการนำเทคโนโลยี Cloud มาใช้ประโยชน์ในองค์กร, แชร์เทรนด์เทคโนโลยี Cloud จากทั่วโลก และกลยุทธ์การใช้ Cloud ในการพัฒนาองค์กรให้ได้ผลสำเร็จ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับโลก นอกจากนี้ ยังจัดบูธแนะนำโซลูชันส์ใหม่ๆ ของ Cloud ให้ลูกค้าองค์กรที่มาร่วมงานได้สัมผัสและทดลองใช้บริการ
นายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสมีความภูมิใจและมีความพร้อมในการเป็น End-to-End service provider ที่ครบวงจรเพียงหนึ่งเดียว สำหรับธุรกิจในยุค Thailand 4.0 ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพในการออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น และวางใจได้เรื่องมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมสนับสนุนการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัล (Digital Business Transformation) รวมถึง เป็น Open Cloud Platform ที่เปิดกว้างให้พาร์ทเนอร์ใน Ecosystem มาร่วมกันสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ที่หลากหลาย โดยปัจจุบัน เทคโนโลยี Cloud เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญขององค์กร บริษัททั้งขนาดใหญ่และ SME เพราะเป็นจุดศูนย์กลางหลักขององค์กร ในการรองรับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้องค์กรมีระบบหลังบ้านและ Infrastructure ที่ทันสมัย พร้อมและก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เทคโนโลยี Cloud จึงเป็นอีกหนึ่งโซลูชันส์ที่เอไอเอสมุ่งเน้นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผสานเข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ ที่เอไอเอสมีอยู่ อาทิ Mobile, Internet of Things (IoT), Fixed Network ฯลฯ เพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ที่แตกต่าง และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ ด้วยขีดความสามารถของบุคลากรที่ได้พัฒนาความรู้และความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดิจิทัล ผสมผสานเข้ากับหัวใจบริการ และทัศนคติที่มุ่งช่วยเหลือลูกค้า ตลอดจนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล นำพาทุกธุรกิจสู่การเปลี่ยนผ่านแห่งยุคดิจิทัล ลูกค้าองค์กรทุกกลุ่ม ทุกขนาด จึงมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับบริการที่มีคุณภาพสูงสุด เราพร้อมอยู่เคียงข้าง สร้างโอกาสใหม่ๆ จากเทคโนโลยีดิจิทัล และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายปรัธนากล่าวสรุป